🌿ภาพของสับปะรดสีกลุ่มนีโอรีเจลเรีย และแอคเมีย หลากสายพันธุ์ถูกอัดแน่นอยู่ในพื้นที่ 200 ตารางวา หากแต่เป็นการจัดวางไว้อย่างอย่างสวยงามลงตัวตามแบบของงานจัดสวน สีสันจัดจ้าน และลวดลายแปลกตา ทำให้สวนสับปะรดสีเล็กๆ แห่งนี้เป็นที่รู้จักของคนชื่นชอบสับปะรดสี ตลอดจนนำไปเป็นแบบอย่างในการจัดวางในสวน
คุณมนู แสนพล จิตรกรหนุ่มเจ้าของแกลเลอรีบนเกาะภูเก็ต และเป็นเจ้าของสวนสับปะรดสีเล็กๆ แห่งนี้ บอกว่า เขาชอบสะสมและเลี้ยงไม้ฟอร์มประกวด ซึ่งเขาคือนักกวาดรางวัลตัวยงของภาคใต้
แนวทางการเลี้ยงจึง “เคร่งครัด”
กับฟอร์มและสีสันเป็นหลัก เมื่อนำมาจัดสวนจึงดูโดดเด่นสวยงาม และยังเป็น “แม่เหล็ก”
เรียกความสนใจของคอสับปะรดสีทุกระดับชั้น
ถ้าใครได้ลองเข้ามาเยี่ยมชมก็ต้องนึกว่าเป็นการแสดงงานจัดสวนด้วยสับปะรดสีมากกว่า
เป็นสวนผลิตต้นไม้ขาย ซึ่งนั่นเป็นเทคนิคการจัดวางของเจ้าของสวนที่ตระเตรียมไว้อย่างตั้งใจ
“เมื่อมีไม้เต็มฟอร์ม สีสันสวยๆ จัดแต่งไว้อย่างเป็นสัดเป็นส่วน ให้ลูกค้าดู ส่วนใหญ่จะชอบ ทำให้ไม้หน่อ ไม้เล็ก จะขายง่าย” นี่คือกลยุทธ์พื้นๆ หากแต่ได้ผล “แม่นยำ” เสมอ
“เมื่อมีไม้เต็มฟอร์ม สีสันสวยๆ จัดแต่งไว้อย่างเป็นสัดเป็นส่วน ให้ลูกค้าดู ส่วนใหญ่จะชอบ ทำให้ไม้หน่อ ไม้เล็ก จะขายง่าย” นี่คือกลยุทธ์พื้นๆ หากแต่ได้ผล “แม่นยำ” เสมอ
เขาบอกว่าสับปะรดสีเลี้ยงง่ายไม่อ้อนไม่งอแง
ช่วงหน้าฝนไม่รดน้ำ 3 เดือนก็ยังอยู่ได้
เพราะมันจะเก็บน้ำไว้ตามช่องกาบใบ ซึ่งไม่ต่างอะไรกับมี “บ่อน้ำ” อยู่ในตัว
วัสดุที่ใช่ปลูกจึงใช้เพียงแค่กาบมะพร้าวสับ ไว้สำหรับให้รากยึดเกาะเท่านั้น
ส่วนสภาพอากาศของภาคใต้
โดยเฉพาะฝั่งอันดามันที่มีฝนตกชุกตลอดทั่งปี
จะเป็นอุปสรรคต่อการปลูกเลี้ยงหรือไม่นั่น เขาบอกว่า ไม่มีผลต่อสับปะรดสี เพราะมันมีความพิเศษสามารถปรับตัวให้เข้ากับภูมิอากาศได้ค่อนข้างดี
แต่ก็ยอมรับว่าสีสันอาจจะไม่จี๊ดจ๊าดในช่วงหน้าฝน
แต่ช่วงตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน-เมษายน คือช่วงพีคสีสันจัดจ้านเลยทีเดียว
ซึ่งเป็นเสน่ห์ของสับปะรดสี
สีสันสวยงาม ยิ่งโตยิ่งสวย
อายุยืนเป็น 10 ปี ดูแลง่าย
และสร้างรายได้ จึงทำให้จิตรกรหนุ่มผู้นี้รักและอยู่กับไม้ใบสวยตัวนี้มากว่า 12
ปีแล้ว
คนรักสับปะรดสี
และรักต้นไม้ไปเที่ยวเกาะภูเก็ต แนะนำว่าต้องแวะเข้าไปชมให้ได้สักครั้ง
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก : https://web.facebook.com/manu.sanpul